เที่ยวหน้าหนาว4ประเทศ นอนโรงแรมน้ำแข็ง ดูแสงเหนือ ขี่หมาลากเลื่อน ขับ snowmobile เล่นสกี

สวัสดีทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ เป็นครั้งแรกกับการเข้ามาเขียนกะทู้ในพันทิปเลยค่ะ ถ้าเขียนอะไรผิดพลาดประการใด ขออภัยมานะที่นี่ด้วยนะคะ การเดินทางทริปนี้ไปทั้งหมด 4 ประเทศ สวีเดน นอรเวย์ ฟินแลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ พักสกีรีสอร์ทสามที่สามประเทศ ไปโรงแรมน้ำแข็งสองที่สองประเทศ และนอนในห้องน้ำแข็งหนึ่งคืน กิจกรรมก็นั่งหมาลากเลื่อน ลองเล่นสกี นั่ง snowmobile ไปดูแสงเหนือที่เค้าบอกว่าเป็นจุดที่ดีที่สุดในสวีเดนเลยค่ะ เดินทางทั้งหมด 45 วันค่ะ

     ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวนิดนึง โรสเป็นคนภูเก็ตค่ะ แต่งงานกับสามีคนฟินแลนด์ สามีเกิดที่ฟินแลนด์ โตที่สวีเดน ทำงานที่นอรเวย์ สามีพูดได้ห้าภาษา เลยง่ายสำหรับเราในการท่องเที่ยวแถบสแกนดิเนเวียนค่ะ โรสไปเยี่ยมบ้านแม่สามีที่สวีเดนมาแล้วเมื่อสองปีก่อนช่วงหน้าร้อน แต่ครั้งนี้เป็นประสบการณ์หน้าหนาวครั้งแรกเลยค่ะ เคยเห็นหิมะมาก่อนที่อเมริกากับสวิสเซอร์แลนด์แล้วก็ที่จีน แต่ไม่เคยเล่นกิจกรรมหน้าหนาวใดๆทั้งสิ้นค่ะ โรสกับสามีแต่งงานกันเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา และเราวางแผนที่จะมีลูกเลยหลังแต่งงาน โรสเลยอยากมีประสบการณ์หน้าหนาวก่อนที่เราจะท้องและมีลูก เพราะถ้ามีลูกแล้วอีกนานคงได้ไปทำกิจกรรมแบบนี้
      หลังจากคุยกับแฟนเดือนกุมภาก็ไปขอวีซ่าที่กรุงเทพเลยค่ะ ขั้นตอนวีซ่าเชื่อว่าทุกคนหาติดตามได้จากหลายที่ขอข้ามไปนะคะ ขอยื่นวีซ่าไป 45 วันค่ะ โดยมีคุณแม่สามีรับรองให้ค่ะ
      พอวีซ่าผ่านก็ถึงเวลาจัดกระเป๋า ต้องบอกว่าช่วงเดือนมีนา- เมษา เหมาะมากสำหรับการมาเที่ยวเพราะแถบสแกนยังหนาวอยู่แต่ไม่มากเท่าเดือน ธันวา-มกรา มีหิมะตกและอากาศติดลบกำลังดีคือ -1 ถึง -4 องศา ถือว่ากำลังดีสำหรับกีฬาหน้าหนาว เพราะหิมะไม่ละลาย และอากาศไม่หนาวมากจนถึงขั้นทรมาน ถ้าโชคดีอากาศคือมีแดดด้วยซ้ำแต่ติดลบซึ่งยิ่งสบายเข้าไปใหญ่เลยค่ะ เลยอยากแนะนำให้ทุกคนไปเที่ยวช่วงประมาณเดือนนี้ค่ะ แถมระยะเวลากลางวันจะยาวมาก พระอาทิตย์จะตกประมาณสองทุ่มค่ะ เราเลยมีเวลาทำกิจกรรมได้เยอะกว่าช่วงเดือนธันวาถึงกุมภาพันธ์ค่ะ

     สิ่งที่ตั้งเป้าหมายสำหรับทริปนี้คือต้องลองทำกิจกรรมหน้าหนาวทุกอย่างที่เป็นไปได้ เล่นสกี,นั่งหมาลากเลื่อน, นั่ง snow mobile, ดูแสงเหนือ
     สำหรับรูปอาจมีไม่เยอะมากนะคะเพราะส่วนตัวเป็นคนไม่ถ่ายรูปเยอะ และที่สำคัญคืออากาศที่หนาวมากจะถอดถุงมือมาถ่ายรูปมือก็สั่นเพราะทนความหนาวไม่ได้ และกิจกรรมที่ทำส่วนมากผาดโผนเลยไม่สะดวกที่จะเก็บภาพไว้ได้ทั้งหมด อีกอย่างเรามีแค่กล้องโกโปรกับกล้องมือถือ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ การเที่ยวช่วงหน้าหนาวอย่าลืมพกแบตสำรองกล้องไปด้วยนะคะ เพราะอากาศหนาวทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วค่ะ
   ใครมาเที่ยวประเทศแถบสแกนแนะนำให้พักที่โรงแรม Scandic Hotel นะคะเพราะจะมีโรงแรมแทบทุกเมืองเลยค่ะ สมัครสมาชิกออนไลน์และจองห้องออนไลน์ทุกครั้งได้ส่วนลดห้องพัก 10% ด้วยนะคะ โรงแรมแต่ละที่จะตกแต่งไม่เหมือนกัน เมืองใหญ่ๆก็จะตกแต่งแบบชิคมากๆค่ะ ที่เมือง Helsinki ฟินแลนด์ห้องพักเก่มากค่ะ ที่สำคัญอาหารเช้าของโรงแรมนี้อร่อยและค่อนข้างหลากหลายค่ะ จองห้องพักที่รวมอาหารด้วยนะคะ ราคาห้องพักที่นี่เริ่มต้นที่ 5,000 บาท ซึ่งถือว่าไม่แพงเลยค่ะ ซึ่งหลายคืนมากเราขับรถไปถึงเมืองไหนเราก็เสริชกูเกิ้ลว่าโรงแรมนี้มีมั้ยอยู่ตรงไหน เราก็ทำการจองออนไลน์และเปิดกูเกิ้ลแม็บไปที่โรงแรมได้เลยค่ะ ส่วนมากโรงแรมที่นี่จะไม่รวมค่าที่จอดรถนะคะ อย่าลืมเช็คกับเจ้าหน้าที่หน้าฟร้อนก่อนด้วยนะคะว่าเท่าไหร่

      สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการที่เราไปทำกิจกรรมหน้าหนาวคือเสื้อผ้าค่ะ บอกเลยว่าถ้าเสื้อผ้าไม่ดีเราก็ทนกับความหนาวได้ไม่นาน ทำอะไรก็ไม่สนุก เพราะความหนาวมันทรมานมากค่ะ พอเราเช่าอุปกรณ์สกีแล้วออกไปเล่นได้ไม่นานเพราะทนหนาวไม่ได้บอกเลยค่ะว่าไม่คุ้มเพราะอุปกรณ์สกีนั้นเช่าต่อวันแพงมาก ส่วนตัวโรสเองก็มีเสื้อผ้าหนาวที่เคยใช้ตอนไปอเมกากับทริปยุโรปเมื่อสองสามปีที่แล้วอยู่เยอะค่ะ แต่ทั้งหมดที่มีสามีบอกว่ามันใช้สำหรับอากาศติดลบไม่ได้เลยค่ะ ครั้นจะซื้อใหม่เสื้อผ้าหน้าหนาวก็แพงมากค่ะ สามีบอกว่าทั้งเซ็ทแบบดีๆทนอากาศได้ดีไม่ต่ำกว่าห้าหมื่นบาท สามีเลยขอยืมเสื้อผ้าหน้าหนาวทั้งเซ็ทจากเพื่อนของเค้าที่สวีเดน เพราะเราไม่อยากลงทุนซื้ออะไรแพงๆ และไม่รู้ว่าตัวเราเองจะชอบเล่นสกีมั้ย ส่วนเสื้อผ้าที่สกีรีสอร์ทนั้นไม่มีให้เช่านะคะ แถบสแกนและสวิสที่ไปมาคือทุกคนมีเสื้อผ้ามาเอง มาเช่าก็แค่อุปกรณ์สกี เช่นสกีหรือสโนบอร์ด หมวกกันน็อค แว่นตา ไม้สกี เลยขอแนะนำเสื้อผ้าหน้าหนาวนิดนึงนะคะ

อันนี้เสื้อผ้าที่ใส่ชั้นในสุดนะคะ

เสื้อด้านในพอใส่แล้วก็จะมีรูตรงปลายแขนเสื้อให้เราสอดนิ้วโป้งเข้าไปช่วยคลุมฝ่ามือกันหนาวค่ะ

หมวกก็เป็นแบบหนาและใหญ่นิดนึงเพื่อปิดใบหูได้เลยค่ะ

ถุงมือโรสมีสองแบบคือแบบในรูปที่ไม่แยกนิ้ว กับอีกแบบแยกนิ้ว(ไม่ได้ถ่ายรูปไว้) ส่วนมากจะแนะนำให้ใช้แบบไม่แยกนิ้วนะคะ แต่พอสวมไปด้านในก็มีรูให้สอดแต่ละนิ้วด้านในเหมือนถุงมือทั่วไปค่ะ


กางเกงก็จะเป็นแบบทั้งกันน้ำและกันลมได้ค่ะ คนที่นี่จะนิยมใส่กางเกงแบบมีสายเอี๊ยมทั้ง ผช และ ผญ ค่ะ ใส่แล้วกระชับเคลื่อนไหวคล่องตัวค่ะ

ด้านในกางเกงจะเป็นสองชั้นนะคะ ตรงปลายขากางเกงก็จะมียางยืดให้เราเอามาคลุมรองเท้ากันลมและความหนาวเข้าอีกชั้นนึงค่ะ

เสื้อแจ็คเก็ตตัวนี้ของเพื่อนอุ่นสบายมากค่ะ แถมยังมีกระเป๋าเล็กๆด้านในหลายที่ ยังมีฮูทเป็นหมวกคลุมหัวอีกที เพราะบางทีหมวกกันหนาวใบเดียวไม่พอค่ะ แถมยังช่วยกันฝนได้ระดับนึงด้วยค่ะ

แจ็คเก็ตที่ใช้เล่นสกีควรเลือกที่มีกระเป๋าเล็กๆด้านนอกตรงแขนขวานะคะ เพราะจะสะดวกมากไว้ใส่บัตรผ่านเครื่องเล่นสกี เราก็ยกมือขึ้นมาทาบไปที่เครื่องประตูก็จะเปิดทันที ไม่ต้องล้วงเข้าออกจากกระเป๋าอื่น เพราะในมือเรามีทั้งถุงมือที่หนา ไหนจะไม้สกีอีกคงไม่สะดวก แจ็คเก็ตตัวนี้ยังมีผ้าสำรับเช็ดแว่นตาด้วยค่ะ เริ่ดมากๆ และยังมีล็อคด้านล่างอีกชั้นเพื่อกันลมเข้า


ส่วนรองเท้าโรสไม่ได้ถ่ายรูปเต็มๆไว้ ขอแปะรูปจากตอนที่ใส่ให้ดูแล้วกันนะคะ รองเท้าหนักมากกกกก แต่ใส่แล้วอุ่นสบายไม่ลื่นดีมากๆค่ะ อย่าลืมพอถุงเท้าหนาๆไปหลายๆคู่นะคะ พอเปียกแล้วได้สลับใส่คู่อื่นค่ะ


จัดกระเป๋าเรียบร้อยก็ถึงเวลาเดินทางค่ะ โดยโรสบินตรงจากภูเก็ตแล้วไปต่อเครื่องอีกสองที่ค่ะ รวมเวลาเดินทางทั้งหมด 20 ชั่วโมงค่ะ ถือว่ารอไม่นานมากค่ะสำหรับการต่อเครื่องถึงสองที่ และไม่มีปัญหาสำหรับโรสเลยค่ะ ต้องบอกว่าเป็นคนมีพรสวรรค์ในการนอนมากๆ เช่นนั่งเครื่องสิบสองชั่วโมง จะหลับไปประมาณสิบชั่วโมงค่ะ คือตื่นมาแค่เข้าห้องน้ำ กิน ดูหนังสักเรื่องแค่นั้นค่ะ

     เดินทางมาถึงสนามบินโกเธินเบิกร์ตอนเช้า โรสลงที่โกเธินเบิกร์เพราะบ้านของแม่สามีอยู่ไม่ไกลจากเมืองนี้ค่ะ ขับรถจากสนามบินไปบ้านแม่ก็ประมาณ 40 นาทีค่ะ ลงมาถึงสนามบินสามีมารอรับอยู่แล้วค่ะ หลังจากแต่งงานเราก็ไปฮันนีมูนที่มัลดีฟแล้วเค้าก็กลับสวีเดนตั้งแต่ต้นมกราที่ผ่านมา ดีใจมากค่ะ เพราะไม่เจอกันถึงสองเดือน พอออกจากสนามบินเท่านั้นค่ะ ลมหนาวก็ปะทะหน้าเข้ามา ตอนนั้นฝนลงพรำๆด้วยค่ะ หายใจออกมาเป็นควันเลยทีเดียว วันนั้นอากาศประมาณ -1 ได้ค่ะ แต่ประกอบกับฝนตกเลยยิ่งรู้สึกหนาวค่ะ รีบวิ่งขึ้นรถทันทีค่ะ พอขับรถออกมาก็เริ่มเห็นวิวข้างทางที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ สวยมากค่ะ ต้นสน ต้นไม้ข้างทางตั้งสูงตระหง่านปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน มันดูสวยงามมีมนต์ขลังมากๆค่ะ มองไปทางไหนก็ดูขาวโพลน



บ้านแม่สามีเรียกว่า Swanholm เป็นเมืองเล็กๆ บ้านแม่สามีก็เงียบสงบมากค่ะ เราก็พักบ้านแม่อยู่อาทิตย์นึง ก็ขับรถไปเที่ยวในเมืองบ้างค่ะ ระหว่างที่พักบ้านแม่สามีก็วางแผนการเดินทาง จริงๆเค้าวางแพลนไว้หมดแล้ว แต่เค้าบอกว่าบางอย่างต้องทำการคอนเฟริม ซึ่งตัวโรสเองไม่รู้รายละเอียดอะไรเลยค่ะ สามีบอกมีเซอร์ไพรส์ รู้แค่ว่าเราจะไปเยี่ยมเพื่อนที่ออสโล และไปเล่นสกี และบินไปสวิสเซอร์แลนด์ปิดท้ายทริปนี้
เอาบรรยากาศบริเวณบ้านแม่สามีมาให้ดูนะคะ หิมะปกคลุมทุกที่ขาวโพลนไปหมดดูสวยแปลกตามากๆค่ะ

อันนี้หลังบ้านแม่สามีค่ะ ตอนหน้าร้อนเราก็จะมานั่งเล่นทำบาร์บีคิวกัน ตอนนี้ออกไปไม่ได้ค่ะหนาวสุดๆ




วันที่ห้าของการมาถึงที่นี่สามีก็พาไปศูนย์วอลโว่ค่ะ สามีบอกมีเซอร์ไพรส์ เราก็แอบตกใจว่าจะมาซื้อรถเหรอ ป่าวค่ะ มาเช่าค่ะ 555 ทริปสแกนดิเนเวียนเมื่อสองปีที่แล้วเราก็เช่าวอลโว่ขับรอบนอรเวย์แต่เช่าที่บริษัทเช่ารถ แต่รอบนี้สามีบอกว่าที่วอลโว่เค้ามีบริการให้เช่ารถด้วย เราจึงเข้ามาเช่าตรงที่ศูนย์เลยค่ะ สามีตกลงเช่ารถแบบโฟวีล เพราะขับเคลื่อนบนหิมะได้ดีกว่าค่ะ และเลือกรุ่นที่ท้ายรถใหญ่สามารถเก็บกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของเราทั้งสองใบของเราได้ เช่ารถทั้งหมดสามสิบวันค่ะ โดยตกลงจะนำรถไปคืนที่สต็อกโฮมส์ ซึ่งไม่มีปัญหาในการคืนต่างเมืองค่ะ เงื่อนไขในการเช่ารถต้องเช็คให้รอบคอบนะคะว่ารวมอะไรบ้าง โดยรถที่โรสเช่านั้นไม่คิดเงินตามไมล์ที่ขับ ไม่งั้นโดนชาร์จบานแน่ค่ะ เพราะเราจะขับไปหลายประเทศ
มาเช่าวอลโว่อีกรุ่นแต่ถ่ายกับรุ่นใหม่ที่เพิ่งออกสวยสุดๆค่ะ ตอนนั้นรุ่นนี้ประเทศไทยก็ยังไม่ได้นำเข้าเลยค่ะ

สาเหตุที่สามีเลือกที่จะเช่ารถในการเดินทางเที่ยวนั้นเพราะเราไปหลายที่ หลายประเทศ และจำนวนของที่เรามีมันเยอะ ซึ่งถ้าเราขึ้นเครื่องอาจจะยุ่งยากกับสำภาระ และแน่นอนว่าการมีรถเองนั้นสะดวกที่สุด อยากจะไปไหน จอดที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องมานั่งรอขึ้นเครื่องบิน และค่าแท็กซี่รถที่นี่แพงมากๆ หลังจากคำนวนค่าเครื่องบินทุกที่ที่เราจะไปนั้นบอกได้เลยว่าราคาเช่ารถบวกน้ำมันแพงกว่านิดหน่อย แต่ความสะดวกและประสบการณ์นั้นดีกว่าเยอะมากค่ะ บอกเลยว่าถ้าทริปนี้เราไม่มีรถเองคงไม่ได้ไปเห็นอะไรดีๆหลายอย่าง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่